Saturday, February 28, 2009

Ted Talk By Go Training Magazine







Posted by Picasa

เมื่อคืนนอนดึกทำโน้นทำนี้แถมเป็นหวัดอีก ตื่นมาตอนเช้าของวันนี้วันที่ 27 กพ 52 ประมาณ 9.00 น.ซึ่งตอน 7.30 แฟนได้โทรมาหาทุกเช้าก่อนเข้าทำงานอยู่แล้ว แต่ไม่เป็นผลเพราะด้วยของฤทธิ์ยา เมื่อคืนกินยาแอทติเฟดที่คนส่วนใหญ่รู้จักเพราะยาชนิดนี้ลดน้ำมูกชงัก และทำให้หลับดี สบาย และไม่มีน้ำมูกในวันรุ่งขึ้น รีบอาบน้ำแต่งตัว ให้อาหารแก่น้องดรากอนเพราะกลัวว่าเลยเวลามันจะไม่กินอาหารแต่จะกินตัวเองแทน สุนัขร๊อตไวเลอร์หน้าตาดีชื่อจริง ดรากอน แปลว่ามังกร พอดีช่วงนั้นเรื่องแม่โขง ที่คุณพีท ทองเจือเล่น กำลังสนุก แถมมีชื่อเป็นญี่ปุนด้วยคือ ดากิโน๊ะ ช่วงนั้นละครญี่ปุ่นดังอีก อินเทรนซะเลย เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ออกเดินทางไปทำงาน ซึ่งใช้เวลา 10-15 นาทีก็ถึง จนลืมเปิดกรงให้น้องสุนัขออกมาเที่ยวเลยค่ะ พอถึงออฟฟิคก็จะ 10.00 น.แล้ว มีอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่พร้อมทำงาน คืออะไรรู้มั้ยค่ะ นั่นคือดวงตานี้แหละค่ะ มันยังหลับอยู่เลย แต่ก็ต้องตื่นเพราะวันนี้ต้องเอาหนังสือกล่องใหญ่ 2 กล่องไปส่งให้ กับผู้เขียนหนังสือเรื่องมองผ่านจาน ซึ่งเป็นหนังสือที่สุดยอด ให้ความรู้ถึงแม้ว่าอาจาร์ยจะไม่ใช่มืออาชีพแต่ถือว่าให้ความรู้เยอะมากมาย ก่อนหน้านี้เคยได้รับเมลจากอาจาร์ยขวัญฤดีว่าให้ช่วยส่งอีเมลงาน Ted Talk ของ Go Training ให้หน่อย อ่ะน่ะ ก็ส่งไป และตอนอ่านเมลดูก็รู้สึกว่าอยากไปร่วมฟังด้วยค่ะ เพราะมีแต่บุคคลที่น่าฟังและนำแนวคิดมาใช้ทั้งนั้นเลย ตอนเช้าว่าอย่างที่บอกว่าไม่ค่อยจะดีเท่าไรแต่ก็แต่งตัวใส่เสื้อทีมคือเรียกว่าพร้อมแล้ว แต่มาถึงบอกอาจาร์ยขวัญฤดีว่าพร้องแล้วแต่ไม่ไปได้ไหมเพราะตายังไม่ตื่นเลยค่ะ อาจาร์ยบอกว่าเห็นว่าอาจาร์ยธัญญามีอะไรให้ทำในงาน ก็เลยคิดว่าคงต้องไปแล้วล่ะ และเมื่อมาถึงงานในใจบอกว่าถ้าไม่มาเสียดายแย่เลย เพราะสุดยอดทุกคน ขออภัยค่ะ
ท่านที่ 1 ไม่ได้เข้ามาฟัง แต่เสียดายค่ะที่ไม่ได้เข้าพอดีเก็บรายละเอียดอยู่หน้างานน่ะค่ะ แต่ก็ได้ถามนะค่ะว่าท่านแรกถือได้ว่าเป็นผู้ก่อตั้งนิตยสาร และพูดเกี่ยวกับเรื่องลูกโซ่
ท่านที่ 2 อ.เกรียงศักดิ์ ที่สอนเกี่ยวกับเรื่อง Coaching จิงค่ะที่อาจาร์ยสอนเห็นด้วยค่ะ
ที่จับได้คือ 1. คนเรามักไม่มีการเปลี่ยนแปลง 2. สอนยังไงก็ไม่เวริค์ 3. Coach คนต่างชาติ 4. ผู้บริหารเก่งแต่มีลูกน้องไม่เก่ง 5. คนที่เข้ามาใหม่มาเป็นผู้บริหาร ไม่ได้ศึกษาวัฒนธรรมขององค์กร 6. อยากเปลี่ยนใครสักคนแต่เปลี่ยนไม่ได้เพราะตัวเค้าไม่อยากเปลี่ยน 7. Coach ไม่ได้ ช่วยไม่ได้ปล่อยไปตามกรรมหรือไปที่ชอบที่ชอบ 8. รับFeedback ไม่ได้ ไม่มีกระจก 9. Coach ให้ออกจากงานไปเลยนั้นเป็นสิ่งที่ดี 10. Coach ส่วนใหญ่แล้วจะทำกับคนติดเพดานไม่ได้ เพราะเป็นได้แค่นี้เป็นมากกว่านี้ไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับศักยภาพ เห็นด้วยค่ะ
ท่านที่ 3 คุณหนูดี พูดถึงเรื่องอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริง ทันทีและไม่คาดฝันก็มีหรือไม่คาดคิดมาก่อน ซึ่งหลายคนก็เป็นหรือเคยเกิดกับตนเอง ฟังก็รู้บ้างค่ะ ที่ไม่รู้ก็เก็บมาเป็นความรู้ ที่จับได้คือ การที่คนเรานอนก่อน 24.00 น. จะมีสารที่ทำให้เรามีความสุขมาก อมิดดาหลา/อมิดดา Hijack ต้องศึกษาเพิ่มค่ะ เพราะการทำซ้ำจะเกิดผลดีกับตัวเราเอง
ท่านที่ 4. คุณสมศักดิ์ ชลาชล ช่างตัดผมมือ 1 ของประเทศไทย และมีหลายสาขา คุณสมศักดิ์เป็นคนไม่อยู่นิ่ง ชอบสร้างสรรค์ผลงานตลอดเวลา ชอบพัฒนาการตัดผมไทยซึ่งเป็นอาชีพของคุณสมศกดิ์ คุณสมศักดิ์บอกว่าการทำซ้ำๆ จะเกิดความสร้างสรรค์ จนมีตอนหนึ่งที่เป็นวิธีที่น่าสนใจและประสบความสำเร็จในซอยทองหล่อ ร้านชลาชลอยู่ข้างๆกับธนาคารกรุงเทพ วันหนึ่งอยากเช็คเรทติ้ง
ในซอยจะมีรถสองแถวคุณสมศักดิ์เลยไปบอกว่าจะไปร้านชลาชล คนขับตอบว่าไม่รู้จัก แค่นั่นแหละคุณสมศักดิ์เลยเล่ายาวเลย จนเดี๋ยวนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก อีกเรื่องหนึ่งที่ฮา คือคำว่า Hi - So ที่เรารู้จักและเข้าใจ คุณสมศักดิ์พูดว่าชั้นนี้แหละ Hi - So ไม่ปฎิเสธแล้วไงล่ะดังตูม คนรู้จักทั่วนี้คือวิธีสร้างแบรนแบบหนึ่ง ถามต่อไปอีกว่าทำใมเวลาไปสมัครงานไม่มีใครเขียนลงไปที่ช่องความสามารถพิเศษว่า ผมสามารถหุงข้าวโดยเม็ดข้าวเรียงตัวสวย มีแต่เขียนว่าทำ Word Excel เป็น ดิฉันคิดว่าน่าจะมีคนอยากเขียนนะค่ะแต่ที่ไม่เขียนเนี่ยเพี่อคนไทยรับไม่ได้ ก็เหมือนเวลาไปสมัครงานนั่นแหละค่ะ ถ้าเป็นจุฬา ธรรมศาสตร์ ภาษีดีกว่าเยอะ แต่ถ้าเป็นเอกชน ก็ว่าไปตามเรื่อง แถมน่าน้อยเนื้อต่ำใจกับพวกที่จบราชภัก อันนี้สมัครมาทีไรลงถังขยะทุกที จิงๆแล้วคนไทยหรือผู้ใหญ่ก็ชอบมองอะไรแบบเดิมๆ นะค่ะ โดยไม่คำนึงว่าจบที่ไหนถ้ามีความขยัน รักในหน้าที่ มีความสามารถ ก็น่าจะรับไม่เคยให้โอกาสเลย มีเพื่อนเคยทำงานที่บริษัททัวร์ ได้เงินเดือน 12000 เพราะพึ่งเข้าไปทำงานได้ 2 เดือน แต่จบม.เอกชน แถมทำได้ทุกอย่างค่ะเพราะเคยทำงานจากที่อื่นมาแล้ว 2 ปี ปรากฎว่าเจ้าของเป็นประเภทไม่ให้โอกาส รับเด็กจุฬาเข้ามาทำงาน แถมไม่เคยผ่านงานด้านนี้มา สิ่งที่เค้าทำได้ทุกวันคือแต่งตัวสวย นั่งแต่หน้าในเวลาทำงาน ส่วนงานที่ให้ทำก็ทำไม่เป็ เพื่อนดิฉันยังต้องสอนด้วย รู้ไหมค่ะ ว่าได้เงินเดือนเท่าไหร่ ได้ 15000 ซึ่งเยอะกว่าอีก ดูสิค่ะ ทำเป็นทุกอย่างทำงานได้เงินเดือนน้อยกว่าคนที่ทำงานไม่เป็นอีก อันนี้ไม่ช่ายเรื่องเล่านะคะเพราะดิฉันบุกไปดูหน้าเจ้านายคนนี้เลย บางทีองค์กร ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจก็แปลกนะค่ะ ชอบที่จะรับทำลักษณะแบบนี้มากกว่า ส่วนคำว่าเทรน ไม่ได้เกิดจากความชอบมันอยู่ที่ว่าเทรนมันเข้าถึงคนกลุ่มไหนมากกว่า คุณสมศักดิ์ฝากไว้ว่า ตำราเป็นสิ่งที่ดี แต่ยังไม่ดีที่สุด ถ้าไม่ลงมือทำ / รางวัลที่ได้มา คือดอกเบี้ยจากการทำซ้ำ / อย่าตกตะกอนแค่ความคิด แต่ต้องตกตะกอนที่ประสบการณ์ /
สุดท้ายฝากไว้ว่า ขอให้ทำซ้ำๆเพราะสร้างท่านให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในสิ่งที่ท่านชอบในอนาคต
ท่านที่ 5 อ.ไชยยศ มาพูดเรื่องบล็อกแนะนำว่าน่าจะควรทำเพราะมันไม่ยากอย่างที่เราคิด เวลามีบทความอะไรดีก็จะนำมาตีบทแล้วแสดงความคิดเห็น อ่าจร์ยแนะนะว่า ตอนที่สมัครใหม่ๆ ยุ่งยากแถมเวลาหมดเร็วมากถ้ามั่วแต่ชักช้าก็อดสมัครไป จิงค่ะอาจาร์ยเพราะตอนที่ดิฉันเริ่งหัดใช้บล๊อก ก็เสริชหาว่าอะไรดี เห็น Oknation เหมือนกันแต่สมัครยากมาก ตนเองใช้Gmail อยู่แล้วด้วยเลยหันไปใช้ Blogspot.com ซึ่งปัจจบันดฉันก็มี Blog เป็นของตนเองนะค่ะ www.peungae.blogspot.com เอาเป็นว่าขอข้ามเว็บบล๊อกมาโพต์ด้วยคนค่ะ แต่อาจาร์ยเก่งนะค่ะ สามารถทำได้ทุกวัน นี่แหละค่ะนักเว็บบล็อกตัวจริง บล๊อกหลายที่ที่อาจาร์ยแนะนำไม่พลาดค่ะแต่ขอเวลาก่อน ที่ดิฉันทำ Blog ก็เกิดจากการอยากรู้อยากเห็นอ่ะค่ะ และส่วนใหญ่ดิฉันก็เขียนหลากหลายข้อมูลค่ะ แต่ดืฉันไม่มีใครเช็คเรทติ้งให้สิค่ะ แย่จัง.....55555
ท่านที่ 6 อ.ธัญญา พูดเรื่องสมอง และMind Map แถมมีหมวกมหัศจรรย์รูปสมองด้วยค่ะ
ท่านที่ 7 อาจาร์ยเฉลิมพล ปุณโณทก นักรบนวัตกรรม ขึ้นมาสไลด์อันแรกว่า รักชาติ อยากรวย แล้วก็โชว์แบงค์แวถามว่าเห็นอะไรในแบงค์ แต่ที่ประทับใจคือที่อาจาร์ยพูดว่า เพื่อนอาจาร์ยเป็นหมออยู่บุรีรีมย์ อีกคนเป็นทหารอยู่ชายแดน ซึ่งตอนนั้นอาจาร์ยทำงานอยู่ต่างประเทศ แต่กลับคิดว่าทำไมเพื่อนถึงรักชาติ และตอบแทนพระคุณแผ่นดิน แล้วตนอาจาร์ยมาทำอะไรที่นี้ เหมือนละครเลยอาจาร์ยเลยกลับมาเมืองไทย และคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างให้แผ่นดินไทย ชอบมากที่บอกว่า ไม่เคยมีใครสอนว่า อยากมีลูกน้องเป็นฝรั่ง ส่วนใหญ่พูดว่าอยากทำงานกับฝรั่งเพื่อจะได้ฝึกภาษาอังกฤษ จิงค่ะ ดิฉันเองยังไม่เคยคิดเลยค่ะ อาจาร์ยจุดประกายอีกแล้ว แถมบอกว่าคนไทยถูกสอนให้ตามโลกตะวันตก เรื่งกันใหม่เถอะปลูกฝังให้คนไทยรักชาติ ไม่ทะเลาะกัน ให้มีจิตสำนึกที่ดี

ขอขอบคุณทุกท่านที่มาพูดในวันนี้ และขอขอบคุณผุ้จัดงาน ทุกท่าน จาก นิตยสาร Go Training ค่ะ วันนี้หลังจากที่กลับจากงานถึงบ้านเวลาตี1.30 ไฟแรงค่ะมานั่งเขียนบล๊อก ถึง ตี 3.15 แล้วค่ะ ไปนอนก่อนนะค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

ปล.ขอชื่นชมแม่บ้านท่านหนึ่งค่ะ คือว่าอาจาร์ยธัญญา-ขวัญฤดี ผลอนันต์ไปจอดรถที่จามจุรีแสคว และไปรับประทานอาหารที่ ร้านเสวย ดิฉันพบกับความประทับใจของแม่บ้านท่านหนึ่งค่ะ เวลาคนเดินเข้ามาพี่เค้าจะพูดว่าเชิญค่ะ ถ้าห้องไม่ว่างพี่ก็จะพูดอีก ว่ารอสักครู่นะค่ะ พอพี่เค้าเห็นใครกำลังล้างมืออยู่ก็จะนำทิชชูมาให้ค่ะ ด้วยความตกใจไม่เคยเห็นเลยบอกว่าขอบคุณค่ะ พอใช้เสร็จก็ได้ยินพี่เค้าพูดอีกว่าถังขยะอยู้ด้านนี้นะค่ะ โอ้โฮ.
.....ประทับใจค่ะ เลยไปถามพี่เค้าว่าเป็นบริการของทางบริษัทหรือว่าคิดเองทำเอง พี่เค้าบอกว่าทำเองค่ะ เลยขอถ่ายรูปไว้แล้วบอกว่าจะเอามาลงบล็อกเห็นไหมค่ะว่าการที่เราจะทำอะไรสักอย่างมันอยู่ที่ใจและตัวเราเองค่ะ ถ้าเราคิดจะทำมันเราก็ทำได้เสมอ ใครที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง หรือไม่คิดจะเปลี่ยน ลองดูนะค่ะ ไม่คิดทำแต่วันนี้....ระวังจะอายพี่คนนี้เค้านะค่ะ พี่แม่บ้านคนนี้คือตัวอย่างเลยค่ะ สุดยอด
ผู้เขียนคือคนที่ถ่ายรูปให้นะค่ะ ตอนมอบของที่ระลึกจากอาจาร์ยธัญญา -ขวัญฤดี ผลอนันต์ หนังสือใช้หัวเล่นค่ะ
By Peungae

Sunday, February 22, 2009

บทความภาษาไทย : Tony Buzan










ท่านใดสนใจกรุณาติดต่อ
คุณจุไรรัตน์ (กุ้ง) 089-8988096
คุณชลลพรรณ (ไก่) 089-4419593
Marketing
or http://www.peungae.blogspot.com/


ฝ่าวิกฤติด้วยเครื่องมือและความคิดใหม่ๆใช้สมองอย่างชาญฉลาดเพื่อความอยู่รอดในโลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง
Tony Buzan คือผู้ประสิทธิ์ประสาท Mind Maps® เครื่องมือในการคิดที่ทรงพลังที่สุดแห่งยุค ถึงขนาดที่บิล เกตส์ ประธาน ไมโครซอฟต์ยอมรับไว้ในบทความเรื่อง "เส้นทางข้างหน้า Mind-Mappers จะนำประชาธิปไตยด้านข้อมูลข่าวสารให้ก้าวข้ามไปอีกขั้นได้อย่างไร" หนังสือพิมพ์ The Times of London ก็ยังทำนายไว้ว่า โทนี บูซาน "ส่งผลสะเทือนวงการสมอง เฉกเช่นที่ Stephen Hawking เคยสั่นสะเทือนวงการจักรวาลมาแล้ว"

โทนี บูซาน ได้อุทิศเวลากว่าสามสิบปีบากบั่นมุ่งมั่นที่จะมอบเครื่องมือนี้ให้กับโลกของเรา เทคนิคของเขาได้นำไปใช้เกือบจะทุกบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 และใช้ในเกือบทุกประเทศทั่วโลก นิตยสาร Forbes เองก็ระบุว่า โทนี บูซาน "ชี้ทางให้ผู้บริหารบริษัทพบทางลัดเข้าสู่พลังความคิดสร้างสรรค์ของตนเองได้"
โทนี บูซาน เป็นนักเขียน วิทยากรและที่ปรึกษาระดับโลกที่ทำงานให้กับรัฐบาล บริษัทชั้นนำ มหาวิทยาลัยและโรงเรียนต่าง ๆ ในเรื่องสมอง ความคิดสร้างสรรค์และทักษะในการคิด หนังสือเรื่อง "ใช้หัวคิด" และหนังสือ "ชุดใช้หัว" ของโทนี บูซาน ทำให้เขาติดอันดับ "นักเขียนยอดขายสูงสุดระดับนานาชาติของสำนักพิมพ์ BBC หนังสือทั้งหมดที่โทนีเขียนจนถึงปัจจุบันสูงถึง 98 เล่ม มีจำหน่ายทั่วโลก 150 กว่าประเทศ และได้รับการแปลไปแล้ว 30 ภาษา เฉพาะฉบับภาษาไทยมีทั้งหมด20 เล่ม โทนี บูซาน ยังรับหน้าที่ที่ปรึกษาให้กับโค้ชและนักกีฬาโอลิมปิค รวมทั้งทีมแข่งเรือของอังกฤษอีกด้วย ทางด้านสังคม โทนีเป็นผู้ก่อตั้ง Brain Trust Charity และ Use Your Head Brain Clubs และเป็นประธาน Mind Sports Council เป็นผู้ก่อตั้ง World Memory Championship
ในการประชุมประจำปีของ 14th Annual International Conference on Creativity and Innovation โทนีได้รับรางวัล Lifetime Achievement Award ในฐานะผู้ที่ได้อุทิศชีวิตให้กับดาวนพเคราะห์ดวงนี้ในด้านความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมและความคิด
โทนี บูซาน ปรมาจารย์ด้านความคิดสร้างสรรค์และผู้เชี่ยวชาญเรื่องการพัฒนาและฝึกสมอง มีเครื่องมือและเทคนิคให้เราใช้ต่อกรกับความท้าทายในโลกปัจจุบัน การสัมมนาครั้งล่าสุดของเขาในครั้งนี้ เขาจะเผยภาพของยุคใหม่ที่เรากำลังบ่ายหน้าไป และอธิบายว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จัดได้ว่าเป็นการสัมมนาที่สนองตอบกับผู้เข้าร่วมและนำไปใช้งานได้จริง โทนีจะช่วยให้คุณปลุกทักษะของสมองที่คุณมีอยู่แล้วและปลดปล่อยอัจฉริยภาพของคุณออกมา รายการข้างล่างนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะนำเสนอในการสัมมนาครั้งนี้
เราผิดตรงไหน จึงทำให้ระบบของโลกปัจจุบันมาถึงจุดที่แทบจะล้มละลาย
ทำอย่างไรฉันถึงจะอยู่รอดในโลกใหม่ - ในฐานะสมาชิกของสังคมคนหนึ่งและในฐานะบุคลากรในองค์การ
ฉันจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง จนสามารถบรรลุถึงความสำเร็จอย่างแท้จริงได้อย่างไร

โทนี บูซาน จะแนะนำเทคนิคการใช้สมองอย่างชาญฉลาด อย่างเต็มขีดความสามารถอันมหาศาลของมัน เพื่อให้บรรลุความสำเร็จทั้งในระดับส่วนตัวและบริษัท ดังนั้น จึงเตรียมตัวเตรียมใจอ้าแขนรับการเปลี่ยนแปลงร่างกายและจิตใจของคุณ และนำไปใช้เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบันให้เป็นโอกาสที่ดีของคุณ


หัวข้อโดยสังเขป
ขอต้อนรับสู่ยุคแห่งปัญญา
ภาพรวม
การปฏิวัติของสมอง
วิกฤติโลก - การล้มละลายทางปัญญา
การจัดการกับผู้จัดการความรู้


ปราการแห่งความสามารถส่วนบุคคล - สมอง
วัดความสามารถของสมองของคุณ
แนวคิดเรื่องการคิดเชื่อมโยง
พลังของการคิดเป็นรัศมี
พื้นฐานของความจำ : การเชื่อมโยงและจินตนาการ
ความสามารถของสมอง : พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมและการคิดเชิงกลยุทธ์

การควบคุมดูแลทุนทางปัญญาในองค์การ
เปรียบวัดทุนสมองของบริษัท
เพิ่มปริมาณความสามารถของสมอง ไม่ต้องเพิ่มจำนวนของสมอง
พัฒนาความเป็นผู้นำทางความคิด
ภาวะผู้นำ 7 ประการ
อ้าแขนรับและการจัดการกับความเปลี่ยนแปลง
สามจังหวะก้าวที่นำไปสู่ความสำเร็จของบริษัท - ประสิทธิภาพ ความสามารถในการแข่งขันและนวัตกรรม

ประยุกต์ใช้สุดยอดเครื่องมือในการคิดเพื่อประโยชน์ส่วนตนและบริษัท : พลังของ Mind Maps®
แนะนำ Mind Map : ภาพสะท้อนของความคิดของเรา
กฎของการเขียน Mind Map
Mind Map ในงาน : ประยุกต์ใช้ในการสร้างภาพ วางแผนเชิงกลยุทธ์ ประชุม จดบันทึก นำเสนอ แก้ปัญหาและระดมความคิด
Mind Map ในชีวิตประจำวัน : ประยุกต์ใช้กับเป้าหมายในชีวิต วางแผนการเงิน ศึกษาต่อ พักร้อนและตัดสินใจ
ฝึกปฏิบัติเขียน Mind Map

สูตรความสำเร็จของคุณ
ความคิดของคุณมีผลต่อเนื้อหาและโครงสร้างสมองของคุณอย่างไร
สูตรแห่งความสำเร็จ TEFCAS ลกปตสป (ลูกไปตีปูสี)
คิดเชิงลบ - วิธีกำหลาบในตัวคุณเองและคนรอบ ๆ คุณ
คิดเชิงบวก - พัฒนาในตัวคุณเองและคนรอบ ๆ คุณ
ติดกับความคิด หลีกเลี่ยงและหลุดออกมาได้อย่างไร
อายุยิ่งมากขึ้น ความจำและความคิดอ่านยิ่งดีขึ้น !
รักษาให้สมองดีไปตลอดอายุขัยได้อย่างไร
สถานที่ :
โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด, ถนนรัชดาภิเษก ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินห้วยขวาง

ประเทศไทย, 29 เมษายน 2552 (พุธ) 9.00 - 17.00 น.