Friday, March 6, 2009

ยา...มหัศจรรย์สำหรับคุณ

ช่วยส่งต่อก็ได้บุญแล้ว มีญาติที่เป็นเองแล้วคุณจะเข้าใจ! สรรพคุณของพืขผักแต่ละชนิดว่ามีคุณประโยชน์ต่อการรักษาได้อย่างไรไว้ในหนังสือชื่อ ' ยามหัศจรรย์สำหรับคุณ ' เช่น
1. ปวดหัว กินปลามากๆ ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด น้ำมันจากปลามีสรรพคุณป้องกันการปวดหัว กินพร้อม ๆ กับขิง จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลง
2. แพ้ละออง เป็นแพ้ทั้งฝุ่นและเกสรดอกไม้ ให้กินโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยว
3. โรคหัวใจ ดื่มชาเขียว เป็นประจำ สารในชาเขียวช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด
4. โรคนอนไม่หลับ ดื่มน้ำผึ้ง เป็นประจำ สารในน้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาททำให้นอนหลับฝันดี
5. โรคหืดหอบ กินหอม ต้นหอม หรือ หัวหอม ก็ได้มีตัวยาทำให้หลอดลมปลอดโปร่ง
6. โรคไขข้ออักเสบ กินปลาเท่านั้น แก้ไขเป็นปกติได้ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ( ปลาโอ ) ปลาแมคเคอเรล ปลาซาดีนส์ ( ปลากระป๋อง ) น้ำมันปลาทำให้โรคไขข้ออักเสบบรรเทาลง
7. ท้องผูก ท้องอืด ให้กินกล้วย หรือ ขิง กล้วยทำให้ไม่ท้องผูก และขิงทำให้อาการคลื่นไส้ในตอนเช้าหายไป
8. ติดเชื้อในถุงกระเพาะปัสสาวะ ให้ กินน้ำคั้นจากลูกแคนเบอรี ( ไม้เมืองหนาว ) กรดเข้มข้นในลูกไม้ฆ่าแบคทีเรียได้
9.. โรคหงุดหงิด ฟุ้งซ่านโดยเฉพาะเกิดในผู้หญิงสูงอายุด้วย ให้กินข้าวโพดช่วยบรรเทาอาการเครียด วิตกกังวล และความคิดสับสนได้
10. โรคกระดูกพรุน ทั้งกระดูกเปราะและแตกง่าย แก้ไขได้โดยให้กินสับปะรด ซึ่งมีสารแมงกานีสอยู่มาก ช่วยให้กระดูกแข็งแรงได้
11. ความจำเสื่อม แก้ไขโดย กินหอยนางรม หอยแครงหรือหอยอื่น ๆ ซึ่งในเนื่อหอยมีสารสังกะสีช่วยบำรุงสมองได้ดี
12. เป็นหวัด กินกระเทียม ทำให้จมูกโปร่ง สมองโล่ง กระเทียมช่วยลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย
13. ไอ จาม กินพริกแดง สารที่นำมาทำยาแก้ไอนั้นสกัดมาจากพริกแดง โดยเฉพาะรำข้าวกะหล่ำปลี ช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนได้ในปริมาณที่เหมาะสม ข้อสำคัญอย่ากินไก่มาก เพราะใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในการเร่งการเจริญเติบโต ช่วยให้อาการปั่นป่วนในท้องเมื่อเชื้อโรคบิดเล่นงานทุเลาลง ที่มีอยู่ในผลไม้ชนิดนี้ทำลายไขมันเลว ' คลอเลสเตอรอล ' ได้ ทำให้ระดับความดันเลือดลดลง ซึ่งมีอินซูลินทำให้น้ำตาลในเลือดสมดุลได้ พืชผักที่กินเป็นอาหารประจำวันนั้นนอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังมีสรรพคุณช่วยสร้างความสมดุลภายในร่างกายช่วยป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บชนิดต่างๆได้ถ้าได้เรียนรู้ที่จะรู้จักเลือกกินให้เหมาะกับตนเอง โดยเฉพาะพืชสมุนไพรไทยนั้นนับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทยเป็นภูมิปัญ ญาชาวบ้านในท้องถิ่นอันควรปกป้องหวงแหนและอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกแก่ลูกหลาน ไทยขอให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคนต่างชาติที่จ้องฉกฉวยผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของ เราไปเป็นของตนทุกวิถีทาง ดังนั้นอนุชนรุ่นหลังจึงควรที่จะได้นำมาศึกษา ค้นคว้า และคิดค้นตามแนวทางที่บรรพบุรุษของเราท่านได้วางพื้นฐานไว้ให้เพื่อนำมาใช้ ให้เป็นประโยชน์ในด้านโภชนาการของคนไทยต่อไป .
14. มะเร็งเต้านม กินข้าวสาลี รำข้าว และกะหล่ำปลีจะช่วยป้องกันได้ดี
15. มะเร็งปอด กินส้ม และ ผักใบเขียว มีวิตามินเอ อยู่มากจะช่วยป้องกันการก่อพิษของสารเบต้าแคโรทีน
16 แผลในกระเพาะอาหาร กินกะหล่ำปลี ซึ่งมีสารเคมีช่วยทำให้แผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กหายขาดได้
17. โรคท้องร่วง กินแอปเปิ้ลสดทั้งเปลือก
18. เส้นเลือดตีบ กินผลอโวคาโด แก้ได้เพราะไขมันดี ' โมโรอันแซตเทอเรต '
19. ความดันโลหิตสูง กินผลโอลีฟ และผักขึ้นฉ่ายพืชทั้งสองชนิดนี้มีสารเคมี
20. น้ำตาลในเลือดไม่สมดุล กินผักบร็อกโรลี่ และถั่วลิสง คุณประโยชน์ของพืชสมุนไพร
อาการของการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
1. มะเร็งปากมดลูก อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณ อาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด เนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ได้ มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบากหรือมีการขยายตัวของต่อมใน ลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึกได้ อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย บ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ
2. มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อ
3. มะเร็งรังไข่ อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์ มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการ ปวดหลัง
4. มะเร็งในเม็ดเลือด ( ลูคีเมีย) อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาหารปวดตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของช่องท้อง
5. มะเร็งปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่างฮวบฮาบ เจ็บหน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
6. มะเร็งตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด
7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะอาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ
8. มะเร็งสมอง อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ การเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็นอัมพาตชั่วคราว ควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย
9. มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษาหรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำหรือเป็นเวลานาน
10. มะเร็งในลำคอ อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที
11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร
12. มะเร็งทรวงอก - ไปที่ร้านยาจีน ซื้อหัวเตย 1 ตำลึง หัวขิง 1 ตำลึง ก้อนเกลือ 3 ก้อน นำมารวมกันแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 1 วัน ในน้ำ 1 ชาม จากนั้นให้ดื่มจนหมดชาม สรรพคุณในการรักษา - หลังจากดื่มยานี้แล้วควรดื่มน้ำตามมาก ๆ นำส่วนที่เหลือมารับประทาน ยานี้จะขับเอาของเสียออกทางอุจจาระหรือปัสสาวะไม่ต้องตกใจ เป็นการขับของเสียออกหมดแล้วจะปกติ อาการมีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้นมีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้ บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานานควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอก โดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่าซีสต์ ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกันแน่
13. มะเร็งลำไส้ อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติมีเลือดออกปนมากับอุจจาระ **** ซึ่งมีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใ ช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคือ อาการของริดสีดวงทวารแต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่นคือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้
14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาการมีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้ เกิดอาการติดเชื้อในบางส่วนของร่างกาย
15. มะเร็งผิวหนัง อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝหรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา (Melanoma) คือเนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระจุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ด ทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อนคุณจะมีอัตราเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นๆ ขอให้ท่านนำเรื่องนี้ไปบอกต่อเป็นวิทยาทาน ท่านจะโชคดีมีความสุขตลอดกาล ตำรานี้ใช้แก้โรคมะเร็งผู้เป็นมะเร็งจะหายโดยไม่คาดคิด สำหรับมะเร็งจะหายภายใน 6 วัน วิธีรักษา *** ตำรานี้ห้ามซื้อขาย หรือคิดเป็นเงินค่ารักษา และขออย่าได้เก็บไว้เป็นส่วนตัวโดยเด็ดขาด หากท่านผู้อื่นรับทราบด้วยใจศรัทธาและกุศลจิตของท่าน ท่านและครอบครัวจะประสบแต่ความสุข

หอศิลปแห่งกรุงเทพ ปทุมวัน





Have You Ever Been There ?

Thursday, March 5, 2009

คู่มือเขียนบล๊อก

คู่มือเขียนบล๊อก ดีมากๆ
ข้อมูลจาก http://pamame.com/index.php/2008/09/27/%e0%b8%84%e0%b8%b9%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%9a%e0%b8%a5%e0%b9%8a%e0%b8%ad%e0%b8%84/ ลองคลิกดูนะ
By Peungae

เปเปอร์มาเช่ เก้าอี้เพื่อน้องพิการ


พึ่งรู้นะค่ะ ก็เลยอยากเผยแพร่ให้ทราบโดยทั่วกันเผื่อท่านอื่นๆ ยังไม่รู้ เพราะมีประโยชน์มากนะค่ะ
ขอฝากด้วยนะค่ะ กระจายความน่ารู้สิ่งนี้ให้ผู้อื่นด้วยนะค่า


เนื่องด้วย สถาบันราชานุกูลhttp://www.rajanukul.com/ ได้จัดทำโครงการ ''เปเปอร์มาเช่ เก้าอี้เพื่อน้องพิการ'' กิจกรรมสร้างเก้าอี้จากกระดาษและลังกระดาษ สำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาและมีปัญหาพิการซ้ำซ้อนที่ไม่สามารถนั่งเองได้ รวมถึงการจัดอบรมพ่อแม่ ผู้ปกครอง หน่วยงานและอาสาสมัคร สำหรับผลิตเครื่องมือช่วยหลือเด็กพิการจากวัสดุเหลือใช้ เพื่อลดต้นทุนอุปกรณ์ที่มีราคาสูง รวมถึงแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวที่ขาดทุนทรัพย์อีกทางหนึ่ง
แต่เนื่องจากทางโครงการ เปเปอร์มาเช่ เก้าอี้เพื่อน้องพิการ ยังขาดแคลนวัสดุที่จะนำมาประกอบเป็นเก้าอี้เปเปอร์มาเช่ อยู่เป็นจำนวนมาก จึงขอความความร่วมมือสำหรับท่านใดที่ประสงค์ร่วมบริจาคกระดาษสี สามารถติดต่อได้ที่ ตึกวิจัย ชั้น 2 สถาบันราชานุกูล ถนนดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 หรือ
โทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2245 4601-5 ต่อ 4906 , 5801 และโทร. 0 2640 2036
ลงประกาศเมื่อวันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ข้อมูลจาก http://guideubon.com/news/view.php?t=107&s_id=19&d_id=19
By Peungae

เรื่องน่ารู้ของคนช่างดูช่างเก็บมาฝาก










ช่อง7 รายการคลับ7
ไปมุมไบ ที่อินเดีย พระที่นั่นละซึ่งกิเลสทุกอย่าง นิกายเศวตัมพร นุ่งขาวห่มขาว ไม่อาบน้ำ ผม และหนวดเคราใช้วิธีการดึงหรือถอน สีหน้าและอารมณ์ห้ามบ่งบอกถึงความเจ็บ ทุกอย่างต้องเป็นปกติ ไม่น่งห่มเสื้อผ้า คนที่นั่นที่พบเห็นจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดา เวลาเห็นพระเดินออกมาจะเข้าไปจับมือแสดงถึงความเคารพ ฉันอาหารเพียง 1 มื้อเท่านั้น และไม่สามารถกินอย่างอื่นได้อีก เรียกศาสนานี้ว่า ศาสนาเชน ซึ่งเป็นศาสนาที่สอนเหมือนศาสนาพุทธ แต่การดำเนินชีวิตแตกต่างกัน คนที่จะมาเป็นพระในศาสนาเชนได้นั้น มิได้เป็นกันง่ายเหมือนบ้านเราเพราะจะต้องละทุกอย่างได้จริง และที่นั่นมีพระแบบนี้ไม่กี่องค์ ใครที่บวชเป็นพระในศาสนาเชนได้ เค้าถือว่าเป็นคนที่สุดยอดแล้ว หาไปเที่ยวซึ่งหลายคนน่าจะเคยเห็นแล้วพิธีกรบอกว่าที่นี้ธุรกิจซักผ้ามีคนงานทั้งหมด800 คน มีคนผลัดเว้นกันทำ ที่แปลกแต่ดีคือราวตากผ้าที่เห็นไม่มีส่วนไหนเลยที่ถูกยึดกับพื้น แต่จะมัดโดยใช้วิธีชาวบ้านยึดกันและกันเหมือนพึ่งพากัน แถมไม่ใช่ไม้หนีบด้วย สุดยอดค่ะ
ศาสนาเชน ศาสนาเชน เรียกอีกอย่างว่า ไชนะ หรือ ชินะ แปลว่า ผู้ชนะ เกิดขึ้นในประเทศอินเดีย อนุมาลราวกาลยุคเดียวกับพุทธสมัย ซึ่งมีหลักฐานว่า พระสมนโคดมพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้ก็ได้เสด็จไปศึกษาในสำนักเชนมีศาสดาคือพระมหาวีระพระมีการตัดกิเลสคือไม่ต้องนุ่งผ้า คือ นิครนถ์ แปลว่าไม่มีกิเลสผูกรัด ศาสนานี้ไม่นับถือพระเจ้าคล้ายกับศาสนาพุทธ
ข้อปฏิบัติของผู้ครองเรือน 11 ข้อ เว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากการพูดเท็จ เว้นจากการลักฉ่อ สันโดษในลูกเมียตน มีความปรารถนาพอสมควร เว้นจากการฆ่าสัตว์เป็นอาหาร อยู่ในเขตของตนตามกำหนด พอดีในการบริโภค เป็นคนตรง บำเพ็ญพรตประพฤติวัตรในคราวเทศกาล รักษาอุโบสถ บริบูรณ์ด้วยปฏิสันถารต่ออาคัข้อปฏิบัติของบรรพชิต
ข้อปฏิบัติของบรรพชิต 1.ห้ามประกอบเมถุนธรรม 2.ห้ามเรียกสิ่งต่างๆว่าเป็นของตนเอง 3.กินอาหารเที่ยงแล้วได้ แต่ห้ามกินในราตรี
รัตนตรัยเชน สัมมากัมมันต ความประพฤติชอบ // สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ //ความเห็นชม
เมื่อพระมหาวีระสิ้นไปแล้วศาสนิกก็แตกแยกกันปฏิบัติหลักธรรม จากหลักธรรมที่เรียบง่ายก็กลาย เป็น ยุ่งเหยิง พ.ศ. 200
ก็แตกเป็น 2 นิกาย คือ 1.นิกายทิคัมพร นุ่งลมห่มฟ้า 2.นิกายเศวตัมพร นุ่งขาวห่มขาว
คัมภีร์ทางศาสนา คือ คัมภีร์อาคมะ หรือ อาคม
ข้อมูลที่หาได้ จาก http://blog.spu.ac.th/Apenan/2008/07/15/entry-3
มาแบ่งปันความรู้ เพราะหลายคนอาจไม่รู้มาก่อน และอาจเข้าใจผิด
พิธีกรรายการ2ช่องบอกไว้ วันที่ 3 มีค 52 ช่อง3
คนที่ระลึกชาติ ครูบัวไข รายการตี10 ต.บ้านเขาพระ จ.พิจิตร
กล่าวว่า มีข้อความที่สามารถแปลความหมายได้ มีให้เลือก 2 ทาง เพราะตอนที่เสียชีวิตก็มีให้เลือก2ทางคือทางรกและทางเรียบ
แต่สำหรับคุณ 2ทางให้เลือกคือ
1. ทำในสิ่งที่ดี ถูกต้อง
2. ทำในสิ่งที่ผิด แค่คิดก็ผิดแล้ว
คำกล่าวสุดท้าย กล่าวไว้ว่า คนที่ทำบาปมิต้องรอถึงชาติหน้า ท่านจะได้รับกรรมที่ก่อในชาตินี้
สามารถดูได้จากบทสัมภาษณ์จริงในรายการ
http://video.showded.com/watch?vdoId=55446
By Peungae