Wednesday, December 26, 2007

กรุ๊ปเลือด..ตรงป่ะ

> >กรุ๊ปเลือด A สิ่งที่ควรทำ > >1.ฝึกฝนการใช้ความคิดสร้างสรรค์และรู้จักแสดงความรู้สึกออกมาบ้าง > >2.วางแผนการที่จะทำในแต่ละวัน 3.หาเวลาพักระหว่างวันทำงานอย่างน้อย 2 ช่วงๆ ละ > >20 นาที ใช้เวลานั่งคิดไตร่ตรองสิ่งต่างๆ 4.รับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อ > >5.บริโภคโปรตีนเพิ่มมากขึ้นในมื้อเช้าและลดปริมาณลงในมื้อเย็น > >6.ไม่ควรกินเมื่อรู้สึกหงุดหงิด 7.เปลี่ยนมารับประทานอาหารมื้อเล็กๆ 6 มื้อ > >ต่อวัน แทน 3 มื้ออย่างเคย เพราะจำนวนครั้งที่ถี่มาก > >ขึ้นช่วยให้ระบบการเผาผลาญทำงานดีขึ้น 8.หาเวลาครึ่งชั่วโมงฝึกจิตใจให้สงบสัก > >3 ครั้งต่อสัปดาห์ 9.หมั่นตรวจร่างกายเป็นประจำเพื่อป้องกันโรคมะเร็งและหัวใจ > >10.เคี้ยวอาหารให้ละเอียดเพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น กินอย่างไร > >คนที่มีกรุ๊ปเลือด A ควรงดนมสดรวมทั้งผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนยและชีส > >เพราะจะทำให้รู้สึก แน่นท้อง เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ > >หันมารับประทานผักใบเขียวและใบเหลืองอย่างฟักทอง แครอท ผักขม บร็อคโคลี่ > >และพืชตระกูลถั่ว โดยเฉพาะถั่วเหลืองซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่มีโปรตีนสูงและ > >ช่วยป้องกันโรคมะเร็งด้วย > >ไม่ควรบริโภคเนื้อสัตว์มากเกินไปเพราะผู้ที่มีหมู่เลือดนี้ > >จะไม่ค่อยมีเอนไซม์และกรดในกระเพาะอาหารที่จำเป็นต่อการย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ > >ดื่มชาเขียวเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้ ควรจำกัดน้ำตาล > >คาเฟอีน และแอลกอฮอล์ เพราะสิ่งเหล่านี้จะไปเพิ่มความเครียด > >และทำให้กระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกายทำงานช้าลง > >อาหารเช้าควรอุดมด้วยโปรตีน สำหรับคนกรุ๊ปเลือด A > >อาหารเช้าถือเป็นมื้อสำคัญที่สุด > >และไม่ควรอดอาหารเพราะจะก่อให้เกิดความเครียดได้ ออกกำลังกาย คนกรุ๊ปเลือด A > >จะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียดสูงมาก > >เนื่องจากร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาในปริมาณสูง > >แต่ฮอร์โมนดังกล่าวสามารถลดลงถ้าได้ทำกิจกรรมที่ร่างกายต้องจดจ่ออยู่กับสิ่งๆหนึ่ง > >อย่างโยคะ ไทชิ หรือฝึกสมาธิกำหนดลมหายใจ จัดการกับอารมณ์ 1. > >ระบายความรู้สึกออกมาถ้าต้องการอย่าเก็บกดเอาไว้ 2. > >ก่อนจะเริ่มกิจกรรมหรืองานอื่นต้องจัดการสิ่งที่ยังคั่งค้างอยู่ให้เสร็จ 3. > >เด็ดเดี่ยว กล้าตัดสินใจการผัดวันประกันพรุ่งจะทำให้เกิดความเครียดได้ 4. ใน 1 > >เดือน หาเวลา 1 วัน อยู่เงียบๆ เพียงลำพัง 5. หากออกกำลังกาย > >อย่าหักโหมต้องหยุดพักก่อนถึงขีดจำกัดของร่างกาย กรุ๊ปเลือด B สิ่งที่ควรทำ 1. > >สำหรับคนที่มีกรุ๊ปเลือดนี้จิตนาการเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่จะพาไป > >สู่ความสำเร็จได้ในยามว่างควรฝึกใช้จินตนาการเพื่อช่วยให้ผ่อนคลาย 2. > >สังสรรค์สมาคมกับเพื่อนๆ คนรอบข้างหรือร่วมกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น > >สิ่งนี้จะเป็นโอกาสช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ็อันดีในกลุ่มให้กับคุณ 3. > >จงทำตัวให้เป็นธรรมชาติ กินอย่างไร ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด B > >ควรบริโภคเนื้อสัตว์ที่ปลอดสารปรุงแต่งเจือปนและไม่ติดมัน หลายๆ ครั้งใน 1 > >สัปดาห์เพราะคนหมู่เลือดนี้สามารถเผาผลาญโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้ดี > >ไม่ควรบริโภคอาหาร ประเภทคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป และหลีกเลี่ยงเนื้อไก่ > >แต่นมและผลิตภัณฑ์จากนมกลับเหมาะสำหรับคนกรุ๊ปเลือด B เป็นอย่างมาก > >ออกกำลังกาย ผู้มีกรุ๊ปเลือด B ควรออกกำลังกายประเภทท้าทายร่างกายและจิตใจ > >กิจกรรมที่เหมาะต้องเป็นประเภทที่ใช้สมาธิควบคู่กับการออกแรงมาก เช่น เทนนิส > >ศิลปะการต่อสู้ ปั่นจักรยาน เดินทางไกล และกอล์ฟ จัดการกับอารมณ์ คนกรุ๊ปเลือด > >B เมื่อร่างกายอยู่ในสภาวะสมดุล ก็จะสามารถขจัดความเครียด > >และความวิตกกังวลลงได้ > >แต่เมื่อใดที่ไม่อยู่ในสภาวะสมดุลระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลจะเพิ่มสูงขึ้น > >และทำให้มีโอกาสที่จะติดเชื้อไวรัส เกิดอาการเหนื่อยล้าเป็นเวลานาน > >จิตใจมัวหมองและภูมิคุ้มกันบกพร่อง สิ่งที่ต้องทำ คือ ลดฮอร์โมนคอร์ติซอล > >ที่ร่างกายหลั่งออกมาเพื่อตอบสนองต่อสภาวะเครียด > >ด้วยการทำสมาธิและการใช้จินตนาการหากิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดสมาธิ > >ซึ่งไทชิจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดนอกจากช่วยลดความเครียดแล้วยังลดความดันโลหิต > >และทำให้รู้สึกผ่อนคลายช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น > >และอาจฟังดนตรีแนวที่ช่วยลดความเครียดหรือเพลงที่ทำให้เกิดจินตนาการ > >กรุ๊ปเลือด AB สิ่งที่ควรทำ 1. ฝึกฝนนิสัยเป็นมิตรของคุณโดยเปิดรับสิ่งใหม่ๆ > >รอบตัว และหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่มีการแข่งขันสูง 2. > >เลิกหมกมุ่นกับปัญหาที่ไม่สามารถควบคุมได้หรือไม่ได้มีผลกระทบต่อคุณ 3. > >ฝึกใช้จินตนาการเป็นประจำทุกวัน 4. > >มีแผนการที่ชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายที่ต้องการบรรลุโดยกำหนดเป็นรายปีเดือน > >สัปดาห์หรือต่อวัน 5. ค่อยๆ > >เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตอย่าพยายามจัดการกับทุกสิ่งในเวลาเดียวกัน > >กินอย่างไร ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด AB > >ต้องจำกัดปริมาณเนื้อสัตว์สีแดงและไม่ควรรับประทานเนื้อไก่ > >เนื่องจากร่างกายมีกรดไฮโดรคลอริกในกระเพาะอาหารและน้ำย่อยในลำไส้มีปริมาณน้อย > >ทำให้ย่อยอาหารได้ยากเปลี่ยนมาบริโภคผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ปลา ไข่ไก่ > >และผักแทน อาหารที่ควรเลี่ยง สำหรับคนกรุ๊ปเลือด A และ B > >ก็ควรจะเลี่ยงในผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด AB ด้วยกัน เช่น ไม่ควรบริโภค คาเฟอีน > >และแอลกอฮอล์มากเกินไป เพราะคาเฟอีนจะไปกระตุ้นให้ร่างกาย หลั่งสารอะดรีนาลีน > >และนอร์อะดรีนาลีน ซึ่งคนกรุ๊ปเลือด AB มีมากอยู่แล้ว > >ไม่ควรอดอาหารเพราะจะทำให้เกิดความเครียด ออกกำลังกาย ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด AB > >ควรทำกิจกรรมทั้งประเภทที่ก่อให้เกิดความสงบนิ่งและใช้แรงมาก เช่น โยคะและ > >การเต้นแอโรบิค จัดการกับอารมณ์ 1. > >วางแผนล่วงหน้าว่าจะทำอะไรเพื่อช่วยลดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันและไม่ให้เกิดความเร่งรีบจนทำอะไรไม่ถูก > >2. > >หยุดพักในวันทำงานด้วยการทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวโดยเฉพาะถ้างานของคุณต้องนั่งอยู่กับที่ > >เพราะจะช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น 3. > >ปลีกเวลาไปตอบแทนสังคมบ้างเพราะคนกรุ๊ปเลือดนี้มีพื้นฐานเป็นคนใจบุญสุนทาน > >และเห็นอกเห็นใจเพื่อนร่วมโลกซึ่งอาจใช้วิธีบริจาคเงินหรือสิ่งของให้แก่ผู้ยากไร้ > >กรุ๊ปเลือด O สิ่งที่ควรทำ 1. > >มีแผนการที่ชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ โดยกำหนดเป็นรายปี เดือน > >สัปดาห์หรือต่อวัน 2. หลีกเลี่ยงการตัดสินใจในเรื่องใหญ่ๆ > >และอย่าใช้เงินเมื่อเกิดความรู้สึกเครียด 3. > >หากรู้สึกเครียดหรือหงุดหงิดพยายามทำให้ร่างกายเกิดความเคลื่อนไหว 4. > >เมื่อเกิดความอยากเหล้า บุหรี่ น้ำตาล และยานอนหลับ > >สิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารที่ทำให้เกิดความสุขในระยะแรกเท่านั้น > >ควรหากิจกรรมอย่างอื่นแทน กินอย่างไร > >อาหารประเภทโปรตีนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดO > >ควรรับประทานเนื้อสัตว์ต่างๆให้มาก ยกเว้นหมู > >นมและผลิตภัณฑ์จากนมให้บริโภคแต่น้อย เพราะร่างกายจะย่อยได้ยาก > >จำกัดปริมาณการบริโภคถั่ว > >รับประทานผักผลไม้ให้มากและเปลี่ยนมาดื่มชาเขียวแทนกาแฟ ออกกำลังกาย > >คนมีกรุ๊ปเลือด O ที่ออกกำลังสม่ำเสมอจะมีการตอบสนองต่ออารมณ์ดียิ่งขึ้น > >การเต้นแอโรบิค วิ่งหรือปั่นจักรยาน ครั้งละ 30 - 45 นาที ประมาณ 3 > >ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยให้เกิดสภาวะสมดุลของอารมณ์ จัดการกับอารมณ์ 1. > >กำหนดแผนการว่าจะทำอะไรเพื่อลดความซ้ำซากจำเจ เพราะเมื่อคนกรุ๊ปเลือด O > >รู้สึกเบื่อพวกเขามักทำอะไรเสี่ยงๆ 2. > >ฝึกรับมือกับความโกรธด้วยวิธีการดังนี้เมื่อรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธ > >ไปเดินเล่นสักพัก ดื่มน้ำ ออกกำลังหรือเขียนระบายความรู้สึกออกมา > >รอจนกว่าจะหายโกรธแล้วค่อยกลับมาจัดการกับปัญหา > >อีกวิธีคือเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหา > >บ่อยครั้งความโกรธมีสาเหตุมาจากการเสียความสามารถในการควบคุม > >เมื่อคุณเลือกที่จะแก้ปัญหามากกว่าจะระเบิดอารมณ์โกรธออกมา > >ก็จะสามารถควบคุมระดับความเครียดในร่างกายให้คงที่ได้

No comments: