Wednesday, September 17, 2008

เปิดโลกกว้าง - มรดกโลกยูเนสโก-ล้ำค่าเหนือการเมือง

เปิดโลกกว้าง - มรดกโลกยูเนสโก-ล้ำค่าเหนือการเมือง
มรดกโลกยูเนสโก-ล้ำค่าเหนือการเมือง ปิดฉากลงไปเรียบร้อยสำหรับการประชุมคณะกรรมการพิจารณามรดกโลก ในการกำกับดูแลขององค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ที่เมืองควิเบก ประเทศแคนาดา
ซึ่งมีการพิจารณาคัดสรรสถานที่สำคัญๆ ของประเทศต่างๆ มาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เพื่ออนุรักษ์ไว้ให้แก่คนรุ่นหลังได้สัมผัสถึงความงดงาม ยิ่งใหญ่ และน่าทึ่งของสถานที่เหล่านั้น
นอกเหนือจากปราสาทพระวิหารที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วนั้น ยังมีสถานที่สวยงามอีกมากมายที่ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลก ซึ่งวันนี้ ทีมข่าวต่างประเทศ "คม ชัด ลึก" จะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับสถานที่ต่างๆ ที่เพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียน ซึ่งปีนี้มีมากถึง 27 แห่ง แบ่งเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม 19 แห่ง และมรดกโลกทางธรรมชาติอีก 8 แห่ง
มรดกโลกทางวัฒนธรรม
1.เขาพระวิหาร ประเทศกัมพูชา นาทีนี้คงไม่ต้องบรรยายสถานที่ตั้งของปราสาทหินอายุนับพันปีแห่งนี้ให้ละเอียด เพราะเชื่อว่าหลายท่านคงทราบกันดีอยู่แล้ว แต่ขอพูดถึงศิลปะความงามของปราสาทแห่งนี้ ที่มีศิลปะแบบบันทายศรีคล้ายคลึงกับปราสาทนครวัด เชื่อกันว่าสร้างขึ้นเพื่อถวายพระศิวะที่ประทับอย่บนยอดเขาไกรลาส ยอดเขาสูงสุดของเขาพระสุเมรุ ศูนย์กลางจักรวาล ตัวปราสาทจึงสร้างอยู่บนหน้าผาเป้ยตาดีติดพรมแดนไทย-กัมพูชา หากมองจากข้างล่างจะเห็นตัวปราสาทเหมือนวิมานสวรรค์ลอยอยู่บนฟ้า
2.บ้านดิน ถูโหลว มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน อาคารดินโบราณในมณฑลฝูเจี้ยนที่สร้างขึ้นจากดินเป็นตึกทรงกลมสูงหลายชั้น มีเป้าหมายเพื่อป้องกันศัตรูผู้รุกราน ภายในตัวอาคารแต่ละแห่งมีการวางแผนผังสาธารณูปโภคภายในเป็นอย่างดี เริ่มก่อสร้างตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 1709
3.ที่ราบสตารี กราด ประเทศโครเอเชีย เมืองที่มีบ้านเรือนและวิวทิวทัศน์รุ่มรวยไปด้วยวัฒนธรรมกรีกโบราณ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล อาคารที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้จนถึงทุกวันนี้แสดงให้เห็นถึงอัจฉริยะของนักออกแบบด้านเรขาคณิตในยุคโบราณ
4.ศูนย์ประวัติศาสตร์หมู่บ้านกามากูเอย์ ประเทศคิวบา กลุ่มอาคารโบราณแบบยุคอาณานิคมที่สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 มีทั้งโบสถ์ บ้านขุนนางขนาดใหญ่ และสถานที่ราชการที่มีการออกแบบทางสถาปัตยกรรม ภูมิทัศน์ และทางวัฒนธรรมอย่างสวยงามจนไม่อาจปฏิเสธได้
5.ป้อมปราการแห่งโวบอง ประเทศฝรั่งเศส เกิดจากแนวคิดของจอมพลมาร์คี เดอ โวบอง แห่งฝรั่งเศส ที่ได้รับการยกย่องให้เห็นนายทหารช่างเก่งกาจที่สุดของแผ่นดิน โดยจอมพลโวบองแสดงความสามารถด้วยการเป็นทั้งผู้ออกแบบและสร้างขึ้นเอง ทั้งยังเคยถวายคำปรึกษาแด่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เรื่องการรวบรวมพรมแดนฝรั่งเศสให้เป็นปึกแผ่นเดียวกัน เพื่อทำให้ชายแดนแข็งแกร่งขึ้น
6.การเคหะเบอร์ลิน โมเดิร์นนิสซึ่ม ประเทศเยอรมนี บ้านการเคหะแนวใหม่ 6 แห่ง ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 1900 ด้วยการออกแบบของสถาปนิกชาวเยอรมันหลายคน ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีอิทธิพลต่อการวางผังเมืองและสถาปัตยกรรมยุคใหม่
7.ป้อมวิหารอาร์เมเนีย ประเทศอิหร่าน โบสถ์อาร์เมเนียนโบราณที่โดดเด่นด้วยยอดโดมสูง 2 โดม สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อ 68 ปีก่อนคริสตกาล เพื่ออุทิศให้แก่เซนต์ธัดเดอุส หรือเซนต์จู๊ด ที่ต่อมาได้ยอมสละชีพระหว่างเผยแผ่ศาสนาคริสต์ ก่อนจะถูกแผ่นดินไหวทำลายสิ้นในปี ค.ศ.1319 และสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อปี ค.ศ.1329 และมีการต่อเติมเรื่อยๆ โดยสิ่งปลูกสร้างที่ใหม่ที่สุดย้อนหลังไปถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19
8.สถานที่ศักดิ์สิทธิ์บาฮาอิในเมืองไฮฟา และกาลิลีตะวันออก ประเทศอิสราเอล สถานที่สำคัญทางศาสนาบาฮาอิ ซึ่งมีการออกแบบสิ่งปลูกสร้างทั้งตัววิหารและสถานที่ภายในอย่างสวยงาม ตั้งตระหง่านอยู่บนหุบเขาคล้ายเมืองสวรรค์
9.เมืองมันตูอาและซับบิโอเนตา ประเทศอิตาลี เมืองเก่าทรงเสน่ห์ทางเหนือของอิตาลี ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11
10.ผืนป่ามิจิเคนดา คายา ประเทศเคนยา ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทางตอนใต้ของเคนยา เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ และมีชนเผ่ามิจิเคนดาหลายเผ่าที่อยู่กันมานานหลายศตวรรษ และร่วมกันรักษาผืนป่าแห่งนี้เอาไว้
11.เมืองประวัติศาสตร์มะละกา และจอร์จทาวน์ ประเทศมาเลเซีย เมืองอดีตอาณานิคมที่เต็มไปด้วยสีสันของประวัติศาสตร์ที่ยังสามารถสัมผัสได้จนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะอาคารสีแดง และสามล้ออันเป็นเอกลักษณ์
12.เมืองโบราณซานมิเกล และวิหารจีซัส เดอะ นาซาเรโน เดอะ อาโตโตนิลโค ประเทศเม็กซิโก ซานมิเกลเป็นเมืองปราการที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 16 ผสมผสานศิลปะแบบเม็กซิกันบาโรค ส่วนวิหารจีซัสฯ ที่สร้างขึ้นสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 ยังเป็นหนึ่งในศิลปะกรรมและสถาปัตยกรรมแบบบาโรคที่วิจิตรงดงามที่สุดด้วย
13.ภูมิทัศน์เลอ มอร์น ประเทศมอริเชียส ภาพทิวทัศน์สวยงามของมหาสมุทรอินเดียจากยอดเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ
14.แหล่งกสิกรรมปฐมภูมิกุก ประเทศปาปัวนิวกินี ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งแรกของประเทศ จากการที่เป็นแหล่งผลิตอาหารมาตั้งแต่ 1 หมื่นปีก่อนคริสตกาล และยังคงมีการทำกสิกรรมจนถึงปัจจุบัน
15.แหล่งประวัติศาสตร์ซานมารีโน และภูเขาติตาโน ประเทศซานมารีโน ประเทศเล็กๆ ทางเหนือของอิตาลี แต่ยิ่งใหญ่ไปด้วยศิลปวัฒนธรรมที่คนในท้องถิ่นอ้างว่าสั่งสมมาตั้งแต่ปี ค.ศ.301 เป็นประเทศสาธารณรัฐเก่าแก่ที่สุดของโลก
16.แหล่งโบราณคดีอัล-ฮิจร์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ขึ้นแท่นมรดกโลกแห่งแรกของประเทศ ชื่อเดิมคือ เฮกรา แหล่งอารยธรรมใหญ่ที่สุดแห่งนาบาเทียน ทางใต้ของเมืองเพตรา ในจอร์แดน ภายในถ้ำโบราณมีหลุมศพที่มีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล
17.โบสถ์ไม้สโลวักแห่งภูเขาคาร์ปาเทียน ประเทศสโลวะเกีย โบสถ์ทรงแปลกตาที่สร้างขึ้นระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 16-18 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรุ่มรวยของสถาปัตยกรรมทางศาสนาของท้องถิ่น
18.ทางรถไฟเรเชียนในอัลบูลา และภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมแบร์นินา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี ทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ซึ่งเต็มไปด้วยทิวทัศน์สวยงามของเทือกเขาแอลป์ตลอดความยาว 67 กิโลเมตร
19.ภูมิทัศน์ชีฟ รอย มาตา ประเทศวานูอาตู ทิวทัศน์อันงดงามเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นมรดกโลกแห่งแรกของประเทศ
มรดกโลกทางธรรมชาติ
20. ผาจ็อกกินส์ ฟอสซิล ประเทศแคนาดา หน้าผาที่เก็บรวบรวมสิ่งมีชีวิตและประวัติศาสตร์โลกมนุษย์ย้อนหลังไปได้ถึง 310 ล้านปีที่แล้ว
21.วนอุทยานแห่งชาติเทือกเขาซันฉิงซาน มณฑลเจียงสี ประเทศจีน ริ้วหมอกปลิวผ่านหินผา ภูมิทัศน์สุดอลังการแห่งแดนมังกร
22.ทะเลสาบนิว คาเลโดเนีย ประเทศฝรั่งเศส เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ และปะการังใต้ทะเล
23.เกาะเซิร์ทซีย์ ประเทศไอซ์แลนด์ เกาะภูเขาไฟทางใต้ของประเทศ
24.ที่ราบและทะเลสาบซาร์ยาร์กา ทางเหนือของคาซัคสถาน ที่ราบไร้ไม้ใหญ่กินอาณาบริเวณ 804,500 ตารางกิโลเมตร เป็นที่ราบแห้งแล้งที่สุดบนผืนโลก
25.เขตอนุรักษ์พันธุ์ผีเสื้อโมนาร์ค ประเทศเม็กซิโก ผีเสื้อพันธุ์ใหญ่ของโลก
26.เปลือกโลกซาร์โดนา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้รับการยกย่องจากปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาของแผ่นเปลือกโลกที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก
27.หมู่เกาะโซโคตรา ประเทศเยเมน เป็นหนึ่งในผืนทวีปเก่าแก่ที่แยกตัวออกมาเมื่อ 6 ล้านปีก่อน ซึ่งบนเกาะยังเต็มไปด้วยสภาพนิเวศที่ตกทอดมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์
...เมื่อรับทราบถึงคุณค่าของสถานที่นั้นๆ แล้ว การเมืองหรือสิ่งอื่นใดก็ไม่มีค่าเทียบทันความงามของมรดกโลกเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย

1 comment:

Anonymous said...

ขอบคุณมาก ๆ นะครับ